Tuesday, September 18, 2007

I am still ALIVE!!

ไม่ได้อัพบล็อกซะนานนม ก็เนื่องจากเหตุผลหลายประการ อันได้แก่
หนึ่ง...เรียนหนัก และยาก กว่าจะสอบผ่านได้ ก็เครียดหลายตลบ
สอง...ทำแล็บหนัก และยาก จนป่านนี้ แล็บที่ข้าพเจ้าทำมาเกือบปี ก็ยังไม่เสร็จ
สาม...ไม่มีเรื่องตื่นเต้นเท่าไหร่ อยู่มาเกือบปีแล้วมั้ง
สี่...กำลังอินเลิฟ ^-^
ห้า...เหตุผลข้อนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ไม่ได้อัพบล็อก คือ ความขี้เกียจนั่นเอง

แต่อย่างไรก็เหอะ ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ หากมีโอกาส จะหาเรื่องเด็ดๆ มาเล่าให้ฟัง
แล้วเจอกันใหม่

Monday, April 02, 2007

ความรักมีอยู่จริงไหม?

ความรักคืออะไร มีอยู่จริงไหม
ทุกครั้งที่เหมือนรักเกิดขึ้นในใจ
ทำได้เพียงแค่..รอวันรักนั้นเดินจากไกล
...ไม่หวนกลับมา

รัก - ไม่รัก

ใครรักเรา เราไม่รัก
ใครไม่รัก เราก็รัก
ใจเรา ใจใคร เข้าใจยากนัก
หากใจได้พักรัก..คงดี

The Untitle -- บทกวีที่ไร้ชื่อ

the Untitle

Falling stars are so bright.
Oh! they make a wonderful night.
But falling love is so gloom.
It makes flowers lose their bloom.
Falling love to your trap
Makes my thought confuses and overlaps.
Please pull me up from such hole,
Or bury me there, that's I told.

...The Untitled Poet

บทกวีที่ไร้ชื่อ

วูบดาวตก พราวพร่าง สว่างสวย
เบิกราตรี ร่ำรวย ด้วยมนตร์ฝัน
หากรักร่วง หล่นบ้าง..อ้างว้างพลัน
กลีบผกา นับอนันต์ ก็พลันโรย
เธอขุดหลุม ลึกจน ฉันหล่นตก
สะท้านอก รัญจวน ใจครวญโหย
ดึงฉันขึ้น..เถิดได้โปรด..ใช่โอดโอย
หรือจะโปรย ดินกลบตาม..ซึ้งน้ำใจ

..นักกวีไร้ชื่อ

Quote of The Day


"รักได้ แต่อย่าตาบอด"

โดย... ป้าหยด (Auntie Droplet) แห่งกลุ่มเคมีไฟฟ้า
ณ เมืองบีแฮม ประเทศอังกฤษ
กล่าวไว้เมื่อวันศุกร์ที่สามสิบ เดือนมีนาคม พุทธศักราชสองพันห้าร้อยห้าสิบ ณ IRC study area, Metallurgy & Materials, University of Birmingham

ดาว

ดาว...
พร่างพราววาววับจรัสไข
สูงเกินกว่าหัตถ์ของผู้ใด
ที่จะได้ไขว่คว้ามาชมเชย

อโณทัย...

Saturday, March 31, 2007

Changeable weather can change my mind?

อากาศแปรปรวน เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว
เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหิมะ

ใจฉันก็แปรปรวนเช่นกัน
เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง
เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย

แต่ต่างกันตรงที่ว่า..
อากาศแปรปรวน คืออากาศเปลี่ยนแปลง
แต่..
ใจแปรปรวน ใช่ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง

ยังไงก็ตาม..
ความรักของฉันที่มีให้เธอ..
ยังคงเดิม..ไม่เปลี่ยนแปลง

ความรัก คืออะไร?

ความรัก คือ การคิดถึง ความเป็นห่วง
แม้ว่าจะทุกข์ จะสุข สักเพียงใด
ก็อยากจะอยู่ใกล้ใกล้
เมื่อได้พบก็จะมีแต่ความสุข..ความสบายใจ
ไม่ว่าปัญหาจะยากสักเพียงใด
ขอแค่มีเธออยู่ใกล้ใกล้
ก็พร้อมที่จะต่อสู้กับทุกอย่าง
ทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งไขว่คว้าดวงดาว
ที่อยู่ไกลสุดเอื้อม ก็จะปีนไปให้ถึง

...อโณทัย..

Sunday, February 11, 2007

Joke for Today

KIDS IN SCHOOL THINK FAST

TEACHER : Why are you late?
WEBSTER : Because of the sign.
TEACHER : What sign
WEBSTER : The one that says, "School Ahead, Go Slow."
_____________

TEACHER : Cindy, why are you doing your math multiplication on the floor?CINDY : You told me to do it without using tables!
_____________

TEACHER : Jo, how do you spell "crocodile?"
JOHN : K-R-O-K-O-D-A-I-L"
TEACHER : No, that's wrong
JOHN : Maybe it's wrong, but you asked me how I spell it!
_____________

TEACHER : What is the chemical formula for water?
SARAH : H I J K L M N O!!
TEACHER : What are you talking about?
SARAH : Yesterday you said it's H to O!
______________

TEACHER : George, go to the map and find North America.
GEORGE : Here it is!
TEACHER : Correct. Now class, who discovered America ?
CLASS : George!
______________

TEACHER: Willie, name one important thing we have today that we didn't have ten years ago.
WILLIE : Me!
______________

TEACHER : Tommy, why do you always get so dirty?
TOMMY : Well, I'm a lot closer to the ground than you are.
______________

TEACHER : Ellen, give me a sentence starting with "I."
ELLEN : I is...
TEACHER : No, Ellen..... Always say, "I am."
ELLEN : All right... "I am the ninth letter of the alphabet."
_____________

TEACHER : "Can anybody give an example of COINCIDENCE?"
JOHNNY : "Sir, my Mother and Father got married on the same day, same time."
_____________

TEACHER : "George Washington not only chopped down his father's cherry tree, but also admitted doing it. Now do you know why his father didn't punish him?"
JOHNNY : "Because George still had the ax in his hand."
______________

TEACHER : Now, ! Sam, tell me frankly, do you say prayers before eating? SAM : No sir, I don't have to, my Mom is a good cook.
_______________

TEACHER : Desmond, your composition on "My Dog" is exactly the same as brother's. Did you copy his?
DESMOND : No, teacher, it's the same dog!
______________

TEACHER : What do you call a person who keeps on talking when people are no longer interested?
PUPIL : A teacher.
______________

Saturday, February 10, 2007

Nihon – no – Reshipi (Part II)

Nihon - no - Reshipi in Hitomi's style

B. Dashi maki tamago --Rolled Egg -- ไข่ม้วน

Ingredients:

Eggs, Oil, Soy Sauce, and Sugar

Directions:

To prepare:
Mix eggs in a bowl with soy sauce and sugar. You will have the egg mixture.

To fry:

1) Pour very small amount of oil into a frying pan, use the medium heat.

2) Wipe a frying pan with a cloth swab moistened with oil.

3) Keep a cloth swab to use again.

4) Divide mixed eggs into several parts. It depends on how many rolls you want i.e. divide eggs into 4 parts, if you want your eggs got 4 rolls.

5) Pour the first part into the pan, then spread the eggs to the thin layer.

6) Break the bubbles by using chopsticks to get easy to roll eggs.

7) When the eggs almost done, roll the egg layer toward yourself with chopsticks.

8) Leave the first roll in the pan at the end of the pan away from you.

9) Wipe a pan with an oily swab.

10) Pour the second part of the egg mixture into the pan.


11) Spread the egg mixture to be a thin layer, while lifting the rolled egg to make the egg mixture spreads under the first roll.

12) Repeat Step 6) to 11) until the egg mixture is empty.


13) Remove from a frying pan to a plate, and then slice the rolled egg into pieces with 1 centimetre width each piece.


14) Ready to E-A-T....Oishii! Delicious! Aroi!

Nihon – no – Reshipi (Part I)

‘Nihon – no – Reshipi’ in Japanese means ‘Japanese Recipes’ in English, and means ‘สูตรอาหารญี่ปุ่น’ in Thai.

Today, we proudly present the most two delicious Japanese recipes in Hitomi’s style. Hitomi is a very nice Japanese girl who is having a wonderful life in Birmingham.

A. Abogado Sarada -- Avogado Salad -- สลัดอาโวคาโด


Ingredients:

Avocado

Iceberg lettuce


Tomato


Tofu


Salad Dressing:

1 part of Soy Sauce
1 part of Rice Vinegar
1 part of Oil (Sunflower oil or Sesame oil)

Directions:

1) Garnish all vegetable in a dish.

2) To do salad dressing; mix soy sauce, rice vinegar, and oil together.

3) Drizzle the salad dressing over salad.

4) Ready to E-A-T...ENJOY!!

Thursday, February 01, 2007

ของหายาก..มักราคาแพง (ไม่) เป็นปกติ

วันนี้ฉันไปทำแล็บตามปกติ ตอนเตรียมอุปกรณ์ทำแล็บตามปกติ ก็มีเรื่องไม่ปกติ ที่ทำให้ฉันตกใจ หน้าซีดผิดปกติ หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ มีเหงื่อที่ฝ่ามือมากกว่าปกติ สาเหตุก็เพราะเจ้าอิเล็กโทรดหรือขั้วไฟฟ้า (Electrode) ที่ใช้ทำการทดลองการกัดกร่อนดันหายไปซะอย่างงั้น ถ้าเป็นของอย่างอื่นหายฉันจะไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเลย หรืออาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีของหายไป แต่นี่ดันเป็นอิเล็กโทรดที่ทำจากลวดแพลตินัม (Platinum wire electrode; ที่ใช้แพลตินัมทำขั้วไฟฟ้าเพราะว่าแพลตินัมมีสมบัติต้านทานการกัดกร่อนที่ดีมาก) ถ้าชั่งน้ำหนักดูก็คงหนักไม่กี่กรัม ถ้าเป็นลวดทองแดงหรือลวดทองเหลืองจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่กลับเป็นแพลตินัมที่มีมูลค่าสูงมากๆ เลยรีบเข้าเว็บ http://www.kitco.com/ เช็คราคาแพลตินัมดูว่าราคาเท่าไหร่ แว๊บแรกเห็นตัวเลขแดงๆ (ราคาตก) ก็แอบดีใจ แต่พอคิดราคาดูแล้ว กรัมหนึ่งตกราวๆ 1,400 บาท ลมก็แทบจับ เพราะถ้าหนักห้ากรัมก็ปาเข้าไป 7,000 บาทแน่ะ คิดเป็นเงินปอนด์แล้วเช่าหออยู่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ค่าหอที่นี่โคตะระแพง แอบอิจฉาคนที่อยู่เมืองอื่นที่ค่าหอถูกกว่านี้เยอะมากๆ แต่ได้เงินเท่ากัน ทั้งๆ ที่ค่าครองชีพที่เมืองนี้ค่อนข้างสูง แต่ได้ค่าใช้จ่ายเท่าเด็กเมืองอื่น เพียงแค่เมืองที่เราอยู่เป็นเมืองที่อยู่นอกลอนดอน เฮ้อ หรือว่าปีหน้าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นดีน้า ชักเริ่มรู้สึกท้อแท้กับแล็บการกัดกร่อนจริงๆ มันช่างค่อยๆ กัดกร่อนใจฉันทีละน้อยๆ จนแทบจะไม่เหลือกำลังใจอยู่เลย โอ๊ย! กลับมาเรื่องของหายต่อดีกว่า เห็นมั๊ยว่าของหายนี่มันทำให้จิตใจสับสนวุ่นวายไม่เป็นปกติจริงๆ นึกในใจว่าทำไงดีหนอ จะบอกพี่มากดีหรือเปล่าหนอ หรือจะไปหาซื้อมาคืน โอ๊ย คิดไม่ตก สับสนมากๆ (จริงๆ แล้ว ฉันกลัวโดนซุปตำหนิน่ะ) ไม่คิดว่าจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นจนได้ แต่สุดท้ายฉันก็ต้องบอกพี่มาก จริงๆ เมื่อวานของก็เพิ่งหายมา รู้มั๊ยคืออะไร เสื้อคลุมทำแล็บที่สลักชื่อความเป็นเจ้าของไว้ แต่ดันมีคนหยิบไปจากห้องแล็บจนได้ ไม่เข้าใจจริงๆ คนการศึกษาสูงๆ อยู่ประเทศศิวิไลซ์ ประเทศพัฒนาแล้ว ก็ไร้ระเบียบได้เหมือนกัน ฉันว่าคนพวกนี้ไร้ระเบียบมากกว่าคนในประเทศกำลังพัฒนาอย่างเราๆ ด้วยซ้ำ นอกจากความไร้ระเบียบแล้วเนี่ยนะ เรื่องความสกปรกโสโครกมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องขยะ ทิ้งขยะกันเกลื่อนกลาด ถังขยะอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ทิ้ง ดันขว้างทิ้งลงตรงหน้านั่นแหละ อยากให้ไปทำแบบนี้ที่ประเทศสิงคโปร์จริงๆ เลย คงสนุกน่าดู

ตกลงนี่ฉันยังไม่กลับมาเรื่องของหายอีกเหรอเนี่ย จริงๆ แล้วฉันตั้งใจจะเล่าเรื่องแพลตินัมให้ฟังกันน่ะ เพราะไหนๆ วันนี้เจ้าแพลตินัมก็ทำให้จิตใจฉันไม่เป็นปกติแล้ว ก็ขอพูดถึงของหายาก..มักราคาแพง (ไม่) เป็นปกติ ซะหน่อย แพลตินัม หรือ Platinum เป็นโลหะมีค่าชนิดหนึ่ง จากโลหะมีค่าทั้งหมด 8 ชนิด อันประกอบไปด้วย ทอง (Gold) เงิน (Silver) โรเดียม (Rhodium) พัลลาเดียม (Palladium) อิริเดียม (Iridium) รูธิเนียม (Ruthenium) ออสเมียม (Osmium) และแพลตินัม (Platinum) แพลตินัมมีเลขอะตอม 78 น้ำหนักอะตอม 195.09 โครงสร้างผลึกแบบ FCC (face-centred cubic) มีสีขาว มีความหนาแน่น 21.45 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือด 1769 และ 3800 องศาเซลเซียส ตามลำดับ เวลาชั่งน้ำหนักแพลตินัมและโลหะมีค่าชนิดอื่นๆ จะชั่งน้ำหนักเป็นทรอยเวท (troy weight) โดยที่ 1 ปอนด์ทรอย (pound troy) จะเท่ากับ 12 ออนซ์ (ounce troy) หากจะเปลี่ยนน้ำหนักเป็นกรัม (gram) ก็ให้เอาน้ำหนักที่ชั่งได้เป็นออนซ์คูณด้วย 31.104 ก็จะได้น้ำหนักเป็นกรัม (1 ออนซ์ทรอย = 31.104 กรัม) ยกตัวอย่างการคิดราคาแพลตินัมจากราคาต่อออนซ์ (ในเว็บ
http://www.kitco.com/) ราคาแพลตินัม ณ วันที่ 31 มกราคม 2550 เวลา 21.44 น. (NY Time) 1 ออนซ์ราคา US$1182 คิดเป็นเงินไทยได้ 42,552 บาท (US$1 = 36 THB) คิดราคาต่อกรัมจะได้ 1,368 บาทต่อกรัม (หาร 42,552 ด้วย 31.104) เป็นต้น เห็นรึยังว่าแพงขนาดไหน สาเหตุที่แพลตินัมมีราคาแพงก็เพราะว่ามันเป็นโลหะที่หายาก และมีสมบัติดี ทั้งเรื่องความขาว ความแวววาว มีความเสถียรสูง คือไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และเฉื่อยต่อการเกิดปฏิกิริยากับกรดหรือสารเคมี แต่ไม่ใช่ว่ากรดจะไม่สามารถกัดแพลตินัมได้เลย เพราะอย่าได้เอาแพลตินัมไปแช่ไว้ในกรดกัดทอง (กรดที่มีส่วนผสมของกรดดินประสิว 1 ส่วนกับกรดเกลืออีก 3 ส่วน) เป็นอันขาด เพราะกรดกัดทอง (aqua regia) สามารถละลายแพลตินัมได้ โดยปกติราคาแพลตินัม (บางคนจะเรียกแพลตินัมว่าทองคำขาว) จะสูงกว่าราคาทองประมาณสองเท่า ไม่รู้ว่าราคาที่สูงของแพลตินัม เป็นสาเหตุทำให้คนนิยมเลือกแหวนแพลตินัมเป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงานหรือเปล่า แต่ฉันว่ามันก็เป็นแค่เรื่องสมมติที่คนเราสร้างค่านิยมขึ้นมา แล้วบอกว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ราคาแพง สิ่งนั้นราคาถูก สิ่งนี้มีค่า สิ่งนั้นไม่มีค่า ซึ่งแท้จริงแล้วสิ่งที่ไม่มีค่าเป็นเงินทองของคนๆ หนึ่ง มันอาจจะมีคุณค่าทางจิตใจของอีกคนหนึ่งก็ได้ สำหรับฉัน ขอแค่แหวนดอกไม้ใบหญ้าก็พอ ไม่ต้องถึงกับเป็นแหวนแพลตินัมฝังเพชรหรอก ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีหวังได้สวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายกับเขาหรือเปล่า เพราะตั้งแต่โดนมีดเจ้ากรรมจูบไปทีตอนหั่นหอมหัวใหญ่ จนป่านนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่แผลอยู่เลย แถมยังทิ้งแผลเป็นไว้ให้สะเทือนใจด้วย ไม่รู้ว่านี่เป็นลางร้ายหรือเปล่า (แอบเชื่อเรื่องโชคลาง ทั้งๆ ที่เรียนทางด้านวิทย์ หุหุ)

แหวนแพลตินัมฝังเพชร

ที่มา:
http://www.athensia.com/info/platinum-diamond-wedding-ring.htm


เจ้าแพลตินัมที่เขานำมาทำแหวนหรือเครื่องประดับ จะไม่ใช่เนื้อแพลตินัมที่มีความบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ช่างทองเขาจะผสมโลหะตัวอื่นลงไปเพื่อเพิ่มความแข็งและความแข็งแรงให้สามารถขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับได้ (ใครอยากรู้ว่ามันแข็งขึ้นได้อย่างไร ก็เข้าไปอ่านที่นี่นะ http://evilaum.blogspot.com/2006/11/grain-size-effect.html) แพลตินัมบริสุทธิ์จะนิ่มมากจนไม่สามารถขึ้นรูปได้ โดยปกติเขาจะผสมโลหะอื่นลงไปอีก 5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ซึ่งจะทำให้มีเนื้อแพลตินัมบริสุทธิ์อยู่ 95 เปอร์เซ็นต์ เราจะเรียกว่า แพลตินัม 950 (Pt 950/ 950 Pt/ 950 Plat เป็นต้น) คือมีแพลตินัมบริสุทธิ์อยู่ 950 ส่วนจาก 1000 ส่วน หมายความว่าถ้าแหวนหนัก 100 กรัม ก็จะมีแพลตินัมบริสุทธิ์อยู่ 95 กรัม อีก 5 กรัมจะผสมด้วยโลหะชนิดอื่น เช่น ทองแดง พัลลาเดียม อิริเดียม โคบอล เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะนิยมเติมอิริเดียม หรือรูธิเนียมลงไป โดยปกติเขาจะไม่นิยมทำต่างหูจากแพลตินัม เนื่องจากน้ำหนักที่ค่อนข้างสูงของแพลตินัมนั่นเอง

บางคนอาจสับสนระหว่างแพลตินัม (ทองคำขาว) กับทองขาว (white gold) ถ้าพูดถึงเครื่องประดับแพลตินัมก็จะหมายถึงแพลตินัม 950 หรือบางคนจะเรียกทองคำขาวก็ไม่ผิด ส่วนทองขาวหรือ white gold นั้น จะเป็นทอง (gold) ที่เติมโลหะนิกเกิลหรือพัลลาเดียมลงไปเพื่อเป็นตัวกัดสีทองให้ทองซึ่งมีสีเหลืองกลายเป็นสีขาว ซึ่งราคาของทองขาวนี้จะแพงกว่าทองผสมหรือทองกะรัต (carat gold) ที่มีความบริสุทธิ์เท่ากันอยู่เล็กน้อย เช่น ทองขาว 14 K (14K white gold) จะแพงกว่า ทอง 14 K (14K yellow gold) แล้วถ้ามีคนให้แหวนแพลตินัมคุณมาหนึ่งวง คุณจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นแพลตินัมจริงหรือปลอม เรามีวิธีตรวจสอบง่ายๆ คือ แหวนแพลตินัมที่มีขนาดและรูปแบบเหมือนกันกับแหวนทองขาวทุกประการ จะมีน้ำหนักมากกว่า เนื่องจากแพลตินัมมีความหนาแน่น (density) สูงกว่าทองนั่นเอง เราสามารถหาความหนาแน่นของแหวนแพลตินัมได้คร่าวๆ โดยชั่งน้ำหนักแหวนเป็นกรัม และหาปริมาตรของแหวนตามวิธีทางเรขาคณิต โดยใช้หน่วยความยาวเป็นเซนติเมตร จะทำให้หาปริมาตรได้ในหน่วยลูกบาศก์เซนติเมตรได้ แล้วนำน้ำหนักที่มีหน่วยเป็นกรัม หารด้วยปริมาตรที่มีหน่วยเป็นลูกบาศก์เซนติเมตร จะได้ความหนาแน่นในหน่วย กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร (แพลตินัม 950 จะมีความหนาแน่นต่ำกว่าแพลตินัมบริสุทธิ์อยู่เล็กน้อย) เท่านี้ก็จะช่วยให้เราไม่โดนหลอกได้

หลังจากที่ฉันแบกหน้าซีดของฉัน ไปบอกพี่มากว่าฉันทำลวดแพลตินัมหาย แกก็ทำหน้าเฉยๆ แกช่างเป็นคนใจเย็นจริงๆ เลย แกช่วยฉันหาจนทั่วห้อง ค่อยๆ คิดว่ามันจะไปอยู่ตรงไหนได้บ้าง จนแกเดินมาหาตรงอ่างล้างมือ กวาดตาไปสักพัก แกก็ใช้มือหยิบขึ้นมาแล้วบอกว่าอยู่นี่ไง น่าแปลกจริงๆ คุณรู้มั๊ย ฉันมองหาอยู่ตรงนั้นสามรอบ แต่กลับไม่เจอ ไม่รู้มีอะไรบังตาไว้ เป็นอาถรรพ์อะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่คงไม่ใช่หรอก เพราะฉันเป็นคนหาอะไรไม่ค่อยเจอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ พ่อ แม่และพี่สาวฉันรู้ดีว่า ถ้าใช้ให้ไปหาอะไรให้ ไม่มีทางเจอแน่ๆ ทางที่ดีไปหาเองดีกว่า ของธรรมดาทั่วๆ ไป ฉันยังหาไม่เจอเลย จะเอาอะไรกับของหายาก...ราคาแพง ถ้าให้ฉันช่วยหา คงไม่มีทางเจอหรอก

Wednesday, January 24, 2007

หิมะมา...แต่ความเหงายังอยู่

อีกห้านาทีก็จะเป็นวันใหม่ของวันพุธที่ยี่สิบสี่ มกราคม สองพันห้าร้อยห้าสิบ ฉันเดินออกไปนอกห้อง มองออกไปนอกหน้าต่างตรงทางเดินที่เชื่อมห้องฉันกับห้องครัว มองผ่านๆ นึกว่าฝนตก แต่จริงๆ แล้วเป็นหิมะ นี่ถือเป็นหิมะแรกที่ฉันได้เจอที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้ได้เจอหิมะครั้งแรกในชีวิตที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการเยี่ยมเยือนประเทศฝรั่งเศสที่ฉันประทับใจมากๆ

หิมะแรกที่กำลังตกลงมาจากฟ้า ณ เมืองเบอร์มิงแฮม นอกหน้าต่างแฟลตซีหก ดูเปอร์ฮอลล์ มันช่างงดงามจริงๆ เวลาหิมะตกลงมากระทบกับแสงไฟสีเหลืองนวลนอกแฟลต ที่มองออกไปแล้วเจออีกแฟลต เจอลานจอดรถกว้างๆ มีรถจอดอยู่เกือบเต็มลาน มันช่างสวยจริง สีขาวของหิมะที่ตกลงบนพื้นหญ้า พื้นซีเมนต์ของลานจอดรถ และบนตัวรถที่จอดอยู่ มันช่างดูเย็นชาเหมือนใครบางคนเหลือเกิน แต่ฉันพบว่ายังมีความสวยงามแฝงอยู่ในความเย็นชานั้น ฉันใช้เวลายืนมองหิมะแรกนี้เกือบสิบนาที สายหิมะที่ค่อยๆ ตกลงมากระทบพื้นด้านล่าง มันสวยจนทำให้ฉันหยุดคิดเรื่องอื่นๆ ไปได้ แต่ใช่ว่ามันจะช่วยทำให้ฉันหยุดเหงาได้ มีคนบอกว่ายิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ แต่นี่ฉันหนีมาไกลขนาดนี้แล้ว มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี ความเจ็บจากความเหงามันรุนแรงมากกว่าความเจ็บจากความใกล้ด้วยซ้ำไป หิมะแรกครั้งนี้มันทำให้ฉันรู้ว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งไกลยิ่งเหงา...

...หิมะมา...แต่ความเหงายังอยู่...

Saturday, January 20, 2007

Quote of The Day

“มนุษย์จะรับรู้สิ่งที่เป็นรูปธรรมได้มากกว่านามธรรม รูปธรรมคือสิ่งที่คนเรามองเห็นได้ด้วยตา อันเป็นประตูแรกในการรับรู้ พอรับรู้แล้วก็จะนำมาแปลความจากประสบการณ์เท่าที่มีอยู่ แล้วใช้ค่านิยมเดิมมาตัดสินคนอื่นซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยเฉพาะในยุคทุนนิยมที่เรายึดถือความมีและไม่มีเป็นหลัก”
โดย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์
กรมสุขภาพจิต

Friday, January 12, 2007

จดหมายถึงเธอ

อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบสี่เดือนที่เราได้รู้จักกัน ตั้งแต่วันแรกที่ฉันพบเธอจนถึงวันนี้ ฉันมีความรู้สึกว่ายังรู้จักเธอได้ไม่มาก ยังไม่สามารถเข้าถึงเธอ แม้เธอจะเป็นคนเปิดเผย เต็มใจให้ฉันเรียนรู้ก็ตามที สำหรับฉันมันมีอะไรบางอย่างก็ไม่รู้ ที่ทำให้ฉันไม่สามารถเข้าถึงเธอได้ลึกซึ้ง อาจเป็นเพราะเราพูดคุยกันคนละภาษา เธอไม่เข้าใจภาษาของฉัน แต่ฉันพอจะเข้าใจภาษาของเธอบ้าง

จากวันแรกที่เราเจอกันฉันก็พยายามที่จะเรียนรู้ภาษาของเธอให้มากขึ้น เพื่อที่ฉันจะสามารถสื่อสารความรู้สึก ความคิด ต่างๆ ที่ฉันรู้สึก ที่ฉันคิด ให้เธอได้รับรู้ ให้เธอเข้าใจ แต่จนแล้วจนเล่า ใกล้ครบสี่เดือนที่เราได้รู้จักกันแล้ว ฉันก็ยังพูดคุยกับเธอไม่ค่อยเข้าใจ แต่ฉันก็ชอบเธอนะตรงที่เธอมีความพยายามที่จะเข้าใจฉัน เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด ฉันรู้สึกดีมากที่เธอเปิดใจ อ้าแขนยอมรับฉัน ให้ฉันได้มาอยู่ใกล้ชิดเธอเพื่อทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น ฉันก็หวังว่าเราคงจะสามารถที่จะคบหากันได้นานขึ้น นานขึ้น เป็นห้าเดือน หกเดือน หนึ่งปี สองปี หรือนานกว่านั้น โดยที่ฉันคงไม่เบื่อเธอไปก่อน (ซึ่งฉันจะพยายามเต็มที่) ฉันหวังว่าระยะเวลาที่นานขึ้นที่เราได้เรียนรู้กัน (คงเป็นฉันมากกว่าที่ต้องเรียนรู้เธอ) จะทำให้ฉันเริ่มเข้าใจเธอมากขึ้น รู้สึกอบอุ่นมากขึ้น เพราะตั้งแต่รู้จักเธอและอยู่ใกล้ชิดเธอ ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นแบบนับครั้งได้ มันช่างน่าเศร้าจริงๆ จริงไหม ฉันหวังว่าความใกล้ชิดจะทำให้ฉันรักเธอมากขึ้น มากขึ้นทุกๆ วัน

ฉันขอบคุณที่เธอพยายามที่จะเข้าใจในสิ่งที่ฉันพยายามพูด ที่ฉันพยายามสื่อให้เธอรู้ ให้เธอเข้าใจถึงความคิดของฉัน ฉันรู้ดีว่าเธอคงไม่มีวันเบื่อฉันเป็นแน่แท้ แต่ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก ว่าตัวฉันเองจะมีความอดทนกับเธอมากเพียงใด อย่างน้อยฉันก็ตั้งความหวังไว้ว่า ฉันจะไม่จากเธอไปไหนจนกว่าฉันจะได้สิ่งที่ฉันต้องการ ซึ่งเธอก็คงรู้ดีว่าคืออะไร ฉันรู้ว่าเธอไม่สามารถให้ฉันได้ในเร็ววันนี้ แต่เธอหารู้ไม่ว่า ฉันเต็มใจที่จะอดทนรอให้สิ่งที่ใครๆ ก็บอกว่ามันเหนื่อยนักที่จะทำให้เธอยอมมอบสิ่งนี้ให้กับฉัน สิ่งที่ต้องแลกด้วยความอดทน ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความสามารถ ถึงแม้ว่าฉันจะมีความสามารถอันน้อยนิด แต่ทว่าความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่ฉันมี ฉันคิดว่าฉันจะสามารถทำให้เธอมอบสิ่งนี้ให้กับฉันได้ หากวันใดที่ฉันได้สิ่งนี้กลับไป ฉันจะไม่ลืมเธอแน่นอน และฉันสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมเธออีกครั้ง ฉันรักเธอนะ...ประเทศอังกฤษ...

ปล. ฉันส่งรูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกไม่สวมแว่นดำ (ฉันถ่ายเอง) ของน้องหมีที่เธอให้ฉันเป็นของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ดูด้วย หวังว่าเธอคงชอบนะ เธอจำได้ไม๊ น้องหมีที่เธอยื่นให้ฉัน แต่ฉันต้องจ่ายตังค์เองน่ะ